The clash of logos
หากประเทศฝรั่งเศสภูมิใจว่าประเทศตัวเองมีเนยแข็ง 1,000 ชนิด ประเทศอิตาลีก็ไม่แพ้กันเพราะมียี่ห้อรถยนต์และจักรยานยนต์แทบนับไม่ถ้วน โลโก้ของรถเป็นรูปสัตว์ต่างๆ หรือเป็นลวดลายระดับมาสเตอร์พีซ ทุกลวดลายล้วนมีความโดดเด่นเป็นของตัวเอง ในโลกแห่งการแข่งขันที่ดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องดีที่จะสามารถแยกแยะยี่ห้อรถยนต์แต่ละยี่ห้อได้ ผู้ผลิตรถยนต์ก็ทราบดีว่าการแข่งขันในโลกปัจจุบันทวีความดุเดือดขึ้นทุกวัน ถ้าบริษัทใหญ่ๆ เกิดขึ้นมาพร้อมกันในช่วงเวลาเดียวกัน (เหมือนช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หรือช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทต่างๆ ต้องการเป็นแรงขับเคลื่อนใหม่ ในเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในประเทศอิตาลี และต้องการ ให้ชาติมีเสถียรภาพ) บริษัทใหญ่ๆ ต่างใส่ใจกับภาพลักษณ์ที่แสดงผ่านโลโก้เป็นพิเศษ ช่วงนั้นเป็นยุคที่โฆษณาไม่ต้องรอไวรัลมาร์เก็ตติ้ง หรือนักโฆษณามือฉมังโลโก้แต่ละอัน มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้อง ความหมายของตราแต่ละความหมาย บอกเล่าความเป็นมาของตระกูลผู้ผลิตได้ บางทีอาจจะเป็นลักษณะเฉพาะของตลาดรถยนต์ในอิตาลีก็ได้ที่แสดงให้เห็นถึงผลต่อจิตใจคนและสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งที่รถยนต์มีต่อบริษัท ผู้ผลิต ทั้งหมดเป็นความร่วมมือกันระหว่างผู้ผลิตที่หลักแหลมช่างยนต์ผู้ชาญฉลาด และศิลปินอัจฉริยะผู้เชี่ยวชาญเรื่องการผลิตรถยนต์ ซึ่งผู้ผลิตรถยนต์ไม่ได้ผลิตรถยนต์ออกมาเพื่อให้ใช้งานได้ตลอดไปหรือเป็นที่นิยม เป็นเทรนด์ เพียงช่วงใดช่วงหนึ่ง แต่ผลิตออกมาเพื่อให้ตราเครื่องหมายเป็นสัญลักษณ์ เป็นความสัมพันธ์ที่ทุกคนจดจำได้
Lamborghini
เฟรุชชิโอ แลมโบร์กินี ผู้สร้างตำนานรถสปอร์ตหรูแลมโบร์กินีและเป็นผู้ที่เกิดในราศีพฤษภ (สัญลักษณ์คือรูปวัว) เขามีความเชื่อทางด้านโหราศาสตร์อยู่แล้วและยังเป็นแฟนตัวยงของการต่อสู้วัวกระทิงอีกด้วย เพราะฉะนั้นก็คงไม่มีโลโก้อันไหนเป็นตัวเลือกได้ดีไปกว่ากระทิงอีกแล้ว (ใช้รูปแบบอักษรอินเตอร์สเตท)
Ducati
ในช่วงปี 2009 ดูคาติสามารถทำยอดขายได้มหาศาลจึงมีการปรับเปลี่ยนโลโก้ให้เป็นรูปเกราะสีแดง (ในอิตาลีสีแดงหมายถึงชัยชนะ) ที่มีทางคดโค้งอันตรายอยู่ตรงกลาง แต่โลโก้ดั้งเดิมนั้นถูก ออกแบบขึ้นตั้งแต่ปี 1927 แล้ว และมีการปรับเปลี่ยนมาเรื่อยๆ เป็นปกติ ถ้าลองย้อนกลับไปดูโลโก้เดิมอันโด่งดังที่มีคำว่า Course อยู่ด้วยนั่นก็เปลี่ยนหลังจากที่ทางดูคาติไปจับมือร่วมงานกับรถออดี้และสร้างรายได้เกือบพันล้านยูโร (ใช้รูปแบบตัวอักษรแบบแอเรียลสีดำตัวเอียง)
Abarth
ใครจะเชื่อล่ะว่าคนใหญ่คนโตในอิตาลีหลายๆ คนจะเชื่อเรื่องโหราศาสตร์ หรือเรื่องดาวเรื่องดวงกับเขาเหมือนกัน เช่นเดียวกับผู้ก่อตั้งบริษัทรถยนต์อย่าง คาร์โล อบาร์ธ ที่เกิดในราศีพิจิก เราก็เลยเห็นสัตว์แปดขาอย่างแมงป่องขึ้นโชว์ อยู่ในโลโก้ของรถอบาร์ธด้วย ส่วนสีแดงและสีเหลืองสะท้อนถึงรักแรกๆ ของตัวอบาร์ธเอง พื้นหลังที่เหลือนั้นหมายถึง ความชอบ ความจริงจัง พละกำลัง และความสุข (ใช้รูปแบบตัวอักษรแบบไมโครแกรมมาตัวเข้ม ดี เอ็กเทนดิด)
Laverda
โลโก้ลาเวอร์ดามีขึ้นตอนปี 1947 บริษัทยักษ์ใหญ่นี้มีบริษัทในเครือที่ผลิตสินค้าหลายอย่าง ทั้งเครื่องจักร ที่ใช้ในเกษตรกรรม หรือส่งออกสินค้าไปทั่วโลก ซึ่งเราสามารถรู้ได้แน่นอนว่าสินค้าของลาเวอร์ดาเป็นของอิตาลี เพราะตราโลโก้เป็นรูปธงชาติอิตาลีนั่นเอง สำหรับชาวคูเวตแล้วไม่มีใครที่ไม่รู้จักแบรนด์นี้แน่นอน เพราะรถจักรยานยนต์ของตำรวจที่นั่นเป็นของ ลาเวอร์ดาแทบทั้งหมด
Benelli
แรกเริ่มเดิมทีเบเนลีเป็นเพียงอู่ซ่อมรถจักรยานยนตร์ ธรรมดาเท่านั้น แต่ในปี1920 ครอบครัวเบเนลีตัดสินใจผลิตรถมอเตอร์ไซค์ขายเอง และภายใต้การดูแลของพี่น้องชายล้วนทั้งหกคน รถแบรนด์เบเนลีมีการพัฒนาจนได้รับรางวัลมากมาย ทั้งในอิตาลีเองและระดับยุโรป เบเนลีจึงกลายเป็นชื่อที่โด่งดัง ขึ้นมา เจ้าของปัจจุบันที่เป็นชาวจีนสั่งลดโลโก้ให้เรียบง่ายที่สุด โดยเหลือไว้แค่ตัวชื่อเบเนลี (ใช้รูปแบบตัวอักษรแบบเดอร์ริงเจอร์ซีเรียล)
MV Agusta
ตัวอักษร MV เป็นตัวย่อของชื่อ Meccanica Verghera ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทการบิน ที่ก่อตั้งโดย โจวานนี ออกัสตา โดยลูกชายของเขาคนนี้เองที่เป็นผู้ริเริ่มไอเดียของการทำรถจักยานยนต์ขึ้นมาเพื่อใช้ในการแข่ง เพราะฉะนั้นแล้วไม่ต้องแปลกใจถ้าบนโลโก้จะมีรูปปีกเครื่องบินติดมาด้วย (เหมือนแบบตราอินซิกเนียกับเบิร์ตแรม)
Ferrari
ท่านเคาท์ฟรานเซสโก บารัคคา สามารถเอาสองเรื่องนี้ไปโม้ให้รุ่นลูกรุ่นหลานฟังได้อีกนานทีเดียว หนึ่งคือเรื่องชื่อของเขากลายเป็นชื่อที่ทุกคนรู้จัก เรื่องที่สองคือของนำโชคของเขาที่เป็นรูปม้ายืนสองขาที่ติดอยู่บนเครื่องบินในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งไปเตะตา เอนโซ เฟอร์รารี่ เข้าอย่างจัง เขาจึงให้ดีไซเนอร์รุ่นเยาว์ชื่อเอลโจ จี. เอารูปม้าไปใช้ออกแบบเป็นโลโก้ให้กับบริษัท Scudreria Ferrari และมีพื้นหลังสีเหลือง ที่เป็นสีของเมืองโมเดนาพร้อมกับธงชาติอิตาลีติดอยู่ตรงขอบด้านบนอีกด้วย
Gilera
นอกจากรถยี่ห้อนี้จะได้ รางวัลแชมเปี้ยนระดับโลก ถึง 6 รางวัลแล้วก็ตาม บริษัท Gilera ยังมีจุดเด่น อยู่ที่สินค้าตัวท็อปอย่าง รถมอเตอร์ไซค์สกูตเตอร์ รุ่น GP800 ที่ทางบริษัท บอกว่าเป็นรุ่นที่เร็วที่สุดในโลก อีกด้วย (เหมือนคอลอสเซียม)
Alfa Romeo
หลังจากมีโลโก้มา 6 แบบ อันนี้เป็นอันเดียวที่รูปงูเปลี่ยนไปเป็นแบบเรียบง่ายขึ้น (งูเป็นอาวุธประจำของครอบครัว Visconti ซึ่งถือว่ามีอำนาจมากที่สุดใน มิลาน) และส่วนไม้กางเขนสีแดงมีความเกี่ยวเนื่องกับ โจวานนี เดอ ริโอ ที่เขาสามารถปีนกำแพงเยรูซาเล็ม เพื่อไปปักกางเขนได้เป็นคนแรก งูที่สวมมงกุฎอยู่นั้นเป็นสัญลักษณ์ของการเชิดชูบุคคลสำคัญอย่างออตตาวิโอ วิสคอนติ เพราะในศตวรรษที่ 5 เขาสามารถฆ่างูน่ากลัวตัวหนึ่งที่เข้ามาในมิลานได้ (ใช้ตัวอักษรฟิวเชอร่าตัวเข้ม)
Maserati
มาริโอ มาเซอราติ หนึ่งใน 6 พี่น้องที่ร่วมก่อตั้งด้วยกันมา เขาเป็นผู้ที่ชื่นชอบการวาดรูปมาก จึงได้เป็นคนคิดโลโก้รูปอาวุธสามง่ามของเทพเนปจูนขึ้น ซึ่งในเวอร์ชั่นแรกสามง่ามอันนี้เป็นสีขาวอยู่บนพื้นหลังสีน้ำเงิน (ใช้รูปแบบตัวอักษรแบบเบมโบ เอสทีดีตัวเข้ม)
Content by Editorial Team