Italian Secret Service
นิทรรศการ The History and Legend เผยประวัติศาสตร์ความเป็นมาของนาฬิกา Panerai จากภารกิจลับของนาวิกโยธินสู่เรือนเวลาที่งดงามตามแบบอิตาเลียนดีไซน์ และคุณภาพระดับ ‘สวิสเมด’
เริ่มต้นจากร้านนาฬิกาและเวิร์กช็อปเล็กๆ ในเมืองฟลอเรนซ์ Panerai แบรนด์นาฬิกาเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ตั้งแต่ปี 1860 ได้ กลายมาเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ให้กับกองทัพเรืออิตาลีในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 จนกระทั่งกลายเป็นผู้ผลิตนาฬิการะดับไฮเอ็นด์อย่างที่ทราบกันในปัจจุบัน เพื่อเป็นการบอกเล่าประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ Panerai ได้จัดนิทรรศการป๊อบอัพ History and Legend ขึ้นมาหน้า ห้างสรรพสินค้า ION Orchard ประเทศสิงคโปร์
ในนิทรรศการขนาดพื้นที่กะทัดรัดนี้ ผู้ชมได้เดินทางย้อนเวลาไปค้นหาต้นกำเนิดของเรือนเวลาจากฟลอเรนซ์ นอกจากจะมีนาฬิการุ่นต่างๆ จาก Panerai ให้ชมกันแล้ว ยังมีไฮไลท์ที่ Panerai ทุ่มทุนสร้าง ขนข้ามน้ำข้ามทะลมา นั่นคือ ‘ตอร์ปิโด’ ยานพาหนะของนาวิกโยธิน ในยุค 30s ออกแบบโดยสองกัปตันชาวอิตาเลี่ยน Teseo Tesei และ Elio Toschi ขนาดความยาวกว่า 7.5 เมตร โดยในยุคนั้นนาวิกโยธิน ต้องนั่งเจ้าตอร์ปิโดสปีดต่ำตัวนี้ออกไปปฏิบัติภารกิจเสี่ยงตายกลางทะเล ในชุดเว็ทสูททำจากยาง พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เข็มทิศ นาฬิกา ฯลฯ ซึ่งการปฏิบัติภารกิจของสายลับกลางทะเล มักกระทำในตอนกลางคืน Panerai จึงได้คิดค้นสารเรืองแสงที่ชื่อว่า Radiomir ขึ้นมาใช้กับอุปกรณ์ ที่เป็นมาตรวัดต่างๆ เพื่อให้สามารถเห็นได้ในที่มืด นี่คือจุดเริ่มต้นของ การร่วมงานระหว่างกองทัพเรืออิตาลีและ Panerai ในการผลิตนาฬิกาเรืองแสงสำหรับนักดำน้ำ ขึ้นในปี 1935 ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นโมเดลต้นแบบในการผลิตนาฬิกา Radiomir ในปี 1938
ภายในนิทรรศการยังมีนาฬิกาวินเทจรุ่นแรกๆ ของ Panerai จาก คอลเล็กชั่นของนักสะสมทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่หาชมได้ไม่ง่ายนัก เราได้เห็นวิวัฒนาการของนาฬิกาจากอดีตถึงปัจจุบัน ที่ยังคงความเรียบง่ายของรูปทรง แต่ยังเปี่ยมความเท่แบบอิตาเลียนดีไซน์ ภายในบรรจุกลไกที่ผลิตจาก สวิตเซอร์แลนด์ นาฬิกาที่นำมาจัดแสดงตั้งแต่ยุคแรกจนมาถึงปัจจุบันโชว์กลไกและฟังก์ชั่นต่างๆ อาทิ พลังสำรอง คอมพลิเคชั่น และโครโนกราฟ ฯลฯ นิทรรศการ The History and Legend อัดแน่นไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ เราได้ความรู้มากมายไม่ใช่แค่เรื่องของนาฬิกา แต่ยังรวมถึงประวัติศาสตร์โลกที่บอกเล่าผ่านนาฬิกาของ Panerai น่าเสียดายที่นิทรรศการนี้เดินทางมาไม่ถึงเมืองไทย แต่เราก็ยังแอบหวังอยู่ในใจว่า แฟนๆ Panerai ชาวไทย จะได้ยลโฉมเจ้าตอร์ปิโดในตำนานบ้างในอนาคต
Content by Editorial Team