The Force Awakens
เดือนสุดท้ายของปี นอกจาก จะเป็นเดือนมหามงคลของพี่น้องชาวไทยเเล้ว ยังเป็นเดือนที่พี่น้อง ชาวออฟฟิศ มนุษย์เงินเดือนอย่าง เราๆ ท่านๆ รอคอย ไม่ว่าจะเป็น โบนัสที่คาดว่าจะคงน้อยมาก (ด้วยเหตุผลที่ได้ยินตั้งเเต่จำความได้ว่า ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี ตั้งเเต่เกิดมามองตาดูโลกใบนี้ ผมได้ยิน คำนี้บ่อย พอๆ กับการเดินเข้าร้านสะดวกซื้อ เเล้วถูกถามว่ารับซาลาเปาเพิ่มไหมคะ?)
เดือนที่ถ้าเป็นราชการก็เเทบไม่ต้องทำงาน ลายาว เจอกัน อีกทีหลังปีใหม่ หลาย ๆ ท่านคงวางแผนการไปเที่ยวประเทศใกล้เคียงเรียบร้อยเเล้ว คาดว่า เราคงจะยกคนกรุงเทพฯ ไปอยู่ที่โตเกียวเเละ โซลแน่นอน นอกจากวันหยุดเทศกาลเเห่งความสุขบ้างไม่สุขบ้างที่จะเกิดขึ้นในเดือนนี้ สำหรับผมกลางเดือนนี้คอหนังเด็กยุค 80 คนโบราณอย่างผมตั้งตารอก็คือ ไตรภาคสุดท้ายของมหากาพย์ สงครามดวงดาว สตาร์วอร์ ภาคล่าสุด The Force Awakens ชื่อไทยใช้ได้สุดทีนส์ นั่นก็คือ ‘อุบัติการเเห่งพลัง’ เเหมต้องขอชม กอปปี้ไรท์เตอร์ คิดได้ไง ซึ่งภาคนี้จะเป็นภาค 7 เเละเป็นการสรุป ปลายสมัยของมหากาพย์ทั้งหมด ที่สำคัญดิสนีย์ใช้ผู้กำกับที่ผมว่าไม่เลวเลย คือ เจเจ เเอบเเรมย์ (J.J. Abrams) จากซีรีย์ส์สุดดังเรื่อง Lost น่าจะทำให้โทนหนังออกมาสนุกกว่าภาค 1 2 3 ที่ผมคิดว่า ไม่ค่อยเท่าไหร่ หนังเรียบเกินไป
เป็นที่ทราบกันว่า จอร์จ ลูคัส ขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์เรื่องนี้ให้กับทาง วอลท์ ดิสนีย์ ไปเมื่อหลายปีก่อน ดิสนีย์นำโครงการ ภาคต่อ 7 8 9 มาปัดฝุ่นใหม่ เเละที่สำคัญ คือไม่ใช้เค้าโครงเดิม จากพลอตที่ลูคัสเขียนไว้ ถ้าใช้คง เเค่ตัวละครหลัก ซื่งผมว่า เป็นเรื่องดีนะ เพราะสตาร์วอร์กลายเป็นสิ่งที่เชยในวัยรุ่นยุคใหม่พวกเจเนอเรชัน Z นี้เเน่ๆ จำได้ว่าเวลาผมสอนหนังสือ น้องๆ ระดับมัธยมศึกษานี่มีไม่กี่คนที่ชอบนะ คือเขาจำตัวละครได้ เช่น เวเดอร์ เเต่ไม่รู้จักเรื่องราว ส่วนระดับอุดมศืกษาที่สอนอยู่ก็ 50/50 ครับ ส่วนใหญ่เยาวชนไทยรุ่นนี้ ถ้าไม่รวมเด็กโรงเรียนนานาชาติ จะจมอยู่กับเอนิเมะ หรือไม่ก็เป็นพวกค่ายมาร์เวลไปเลย เจเนอเรชันเเฮร์รี่ พอตเตอร์ พอเถอะ… พอเถอะ ขอย้ำ ก็ยังมีอีกมาก คือพวกเขายอมที่จะชื่นชอบที่จะร่ายเวทมนต์ ขี่ไม้กวาดเเม่มด มากกว่าดาบเลเซอร์
สตาร์วอร์คือ Pop Culture ที่ยังคงฝังรากลึก เพียงเเต่จะต้องหาคนนำเสนอที่เก่งเเละเข้าใจผู้บริโภครุ่นใหม่ ไม่ใช่เพียงเเต่ตัวละครที่เอามาผลิตเป็นสินค้า เเต่เนื้อเรื่องที่อิงปรัชญาเเละข้อคิดตะวันออก โดยเฉพาะ ภาค 4-5-6 อาทิ เช่น พลัง หรือ เดอะ ฟอร์ซ ที่เราชอบพูดติดปาก มันก็คือปราณ หรือลมปราณนั่นเอง ดูได้จากชื่อของตัวละครในภาคเเรกที่เป็นคนเจอ อนาคิน สกาย วอล์เกอร์ ดาร์ท เวเดอร์ ชื่อตัวละครตนนั้น คือ ไกว ควอน จิน มาจากภาษาจีนเเปลว่า พลังเเห่งปราณ เป็นต้น เอาเข้าจริง สำหรับคุณผู้อ่านที่อายุเกิน 30 อาจรู้จักนิยายกำลังภายในมังกรหยก มีคนกล่าวว่า ตัวละครมากมายในมหากาพย์สตาร์วอร์ อิงมาจากเรื่องของกิมย้ง ผู้เเต่ง เท็จจริงอย่างไร ต้องไปหาข้อมูลเพิ่ม เเต่ผมว่ามีส่วนคล้าย
เข้าเรื่องเพลงประกอบสตาร์วอร์ภาคล่าสุด วอลท์ ดิสนีย์ยังคงใช้ จอห์น วิลเลี่ยมส์ (John Williams) เเละลอนดอน ซิมโฟนี่ ออเคสตร้า (London Symphony Orchestra) ซื่งสตาร์วอร์ในทุกภาคที่ผ่านมาตั้งเเต่ปีค.ศ. 1977-2015 ปู่วิลเลี่ยมควบคุมดูเเลทั้งหมด ธีมภาพยนตร์เราคงคุ้นหูกันอย่างดี เเต่สำหรับผมธีมที่กระเเทกใจ เเละน่าจะอยู่ในหัวใจคอหนัง คอเพลงประกอบฯ หลายๆ ท่านก็คือ ธีมจากภาพยนตร์ชุดนี้ในภาค 5 นั้นก็คือธีม The Imperial March จาก The Empire Strikes Back ธีมนี้ ทุกคนต้องร้องอ๋อเมื่อได้ยิน หากคิดไม่ออกตอนอ่านคอลัมน์นี้ แนะนำให้กดยูทูปเลยครับ พิมพ์ตามชื่อเลย มีให้ฟังมากมาย เพลงประกอบของไตรภาคชุดนี้ ผมว่าที่สุดเเล้ว วิลเลี่ยมอยู่ในยุคเรเนซองของผลงานตัวเอง Imperial March ธีมกลายเป็นตัวเเทนของการใช้เพลงนี้ประกอบในสถานการณ์ต่างๆ ที่ออกเเนวเผด็จการชั่วร้าย ระบอบการเมือง ศาสนา ที่ถูกครอบงำเเละกดขี่ ชุดนี้ทั้งซีดีฟอร์เเมทเเละเเผ่นเสียงออกมาเป็นเเผ่นคู่ทั้งสองรูปเเบบ ภาค The Empire Strikes back นอกจากจะมีธีมที่สุดคูลเเล้ว ยังเป็นตอนที่ทำรายได้มหาศาล เเละมีโทนหนังมืดมนที่สุด เเอบคิดว่ายุคนั้นถ้าเอาสองพี่น้องโคเฮน หรือไม่ก็คริสโตเฟอร์ โนเเลนด์ มากำกับ จะดาร์คขนาดไหน ภาคนี้ นอกจากเพลงเพราะฟังเพลิน มีถึง 18 องก์ (Act) ยังเป็นการเดินเรื่องที่กระเเทกใจคนดู ตรงที่มีการเฉลยตอนท้ายเรื่องกับคำพูดสุดฮิตตลอดกาลที่ถูกนำมาใช้ทุกยุคทุกสมัยนั่นก็คือ “I am Your father” ฉากที่ ลุค สกายวอล์คเกอร์ โดน ลอร์ด เวเดอร์ ตัดเเขนขวาขาดกระจุยเเล้วยื่นมือมาหาลุคพร้อมทั้งพูดประโยคเด็ดดังกล่าว เเถมมีต่อว่า “Join me, Together we can rule the Galaxy as father as son !” ที่สุดครับ พ่อลูกตัดไม่ขาด ลุคถึงขั้นหงายเงิบ สตั๊นท์ 10 วิฯ เเละโดดลงปล่องขนาดใหญ่ไปทันที เป็น ฉากคลาสสิก ตลอดกาล มากกว่าฉากเเฮร์รี่ พอเถอะ ทั้งหมดทั้งปวง ทำไมเด็กรุ่นนั้นกับเด็กรุ่นเราซึมซับไม่เหมือนกัน คุณผู้อ่านคิดเห็นว่าอย่างไรครับ กลับไปเรื่องเพลงประกอบ ถ้าพูดถึงซาวด์เเทรคภาคล่าสุดที่อยู่ในการดูเเลของจอห์น วิลเลี่ยมส์ เเละใช้วงเดิมในการบรรเลง ทางโซนี่เเละดิสนีย์จะมีการนำเพลงประกอบของทุกภาค รวมถึงภาคใหม่ด้วยมาจัดจำหน่ายมาสเตอร์ซาวด์อีกครั้งในรูปเเบบ Boxset เเผ่นเสียง เเถมซีดี เเละดิจิตัลดาวน์โหลด ห้ามพลาดนะครับ คุณจะได้อรรถรสในการฟังเเบบ Hi fidelity มีมิติทุกฟอร์เเมท งานปกอาร์ทเวิร์คก็คุ้มค่าเเต่ราคาไม่กล้าบอกลองไปค้นดูจากอเมซอนนะครับ เผื่อจะเป็นของเทศกาลคริสต์มาสให้ตัวเอง เเม้ปีนี้โบนัส อาจเบาบางก็ตาม (ฮา) ส่วนเเฟนเกมส์ไม่ต้องห่วง PS4 ออกมาเเล้ว กับ Star Wars – Battle Front จากค่าย EA ที่กินเนื้อที่ในเครื่องเพลย์ของคุณถึง 50GB ชมหนังเเล้ว ลองมาวิจารณ์ดูนะครับ ว่าชอบมากน้อยเพียงใด เพลงเพราะอยู่เเล้วผมไม่ห่วง กลัวหนังจะคาดไว้สูงเกินเหมือนเจมส์ บอนด์ Spectre ในเดือนที่ผ่านมา ขอบอกว่า หลับคาโรง! เเมร์รี่คริสมาสต์ มีความสุขมากๆ ครับผม
Content by Patrick C., Photography by Getty Images