ในหนึ่งเดือนคุณใช้เงินกับคนรักไปทั้งหมดเท่าไร?
แน่นอนว่ามากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ไม่เคยนับ หรือเรียกได้ว่านับไม่ถ้วน แค่เพียงเห็นสายตาของเธอระหว่างลองกระเป๋า Prada รุ่นใหม่ แล้วเหลือบมองมาที่คุณอย่างอ่อนโยน บัตรเครดิตก็แทบจะพุ่งสู่หน้าแคชเชียร์อย่างไม่ทันตั้งตัว หรือจะเป็นมื้ออาหารรสเลิสที่บรรยากาศเป็นใจบนตึกระฟ้ากลางเมือง ด้วยวิวพาโนรามา 360 องศา เพราะมีความเชื่อว่าลมพัดอ่อนๆ บนยอดตึกจะทำให้อาหารชิ้นเล็กน้อยที่ประดับสวยงามบนจานรถละมุนลิ้น สร้างความประทับใจไม่รู้ลืม ไหนจะอีกหลายโอกาสพิเศษ วันสำคัญ วันเกิด วันครบรอบแรกคบ พูดได้เลยว่าหลายตังค์!!! แต่…ไม่ผิด เพราะเงินคือองค์ประกอบหนึ่งของความรักเสมอ และคุณต้องใช้เงินซื้อสิ่งเติมเต็มความรักบ้างเป็นครั้งคราว
ผลวิจัยจากอเมริกาเปิดเผยว่า ผู้ชายที่ครองตัวเป็นโสดมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินเยอะ และไม่ค่อยคิดถึงการเก็บออมไว้ใช้ในอนาคตมากนัก เนื่องจากพวกเขาต้องการดึงดูดความสนใจจากผู้หญิง….(ช่างเป็นผลวิจัยที่ไม่น่าแปลกใจเอาเสียเลย) และส่วนใหญ่ของผู้ตอบคำถามนี้ไม่ได้คำนึงถึงสถานะทางการเงินในอนาคต และไม่มีความรู้สึกที่จะเก็บออม (OMG ไม่แปลกใจที่โสด)
ในขณะเดียวกัน หากคุณเป็นคนที่แต่งงานแล้ว เรื่องเงินจะเป็นสิ่งที่คุณทะเลาะกันบ่อยอันดับต้นๆ โดยเฉพาะเรื่องใครใช้เงินมากกว่ากัน? เนื่องจากการใช้จ่ายภาระในครอบครัวที่ไม่ลงตัว หรือรู้สึกว่าอีกฝ่ายเห็นแก่ตัวไม่ยอมหาเงิน ยังไงควรตกลงกันก่อนใช้ชีวิตร่วมกันดีที่สุด เพราะหลายคู่ตัดสินใจจบความรักลงด้วยสาเหตุนี้
ดังนั้น รีบไปเรียกแฟนคุณมาอ่านตั้งแต่ประโยคนี้เป็นต้นไป!!!
สิ่งที่คุณต้องทำหากจะใช้ชีวิตร่วมกับคนที่คุณรัก อันดับแรกออมเงินให้เป็นนิสัย แน่นอนว่าคุณคงวางแผนที่จะทำร่วมกันเป็นร้อย ทั้งแต่งงาน ฮันนีมูน สร้างเรือนหอ ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินทั้งนั้น ถ้าคุณไม่เริ่มเก็บตั้งแต่วันนี้ จะไปเก็บวันไหนล่ะ
ข้อ 1. รีบขจัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นทิ้งซ่ะ ถึงเวลาต้องจริงจังซักทีโดยออมเงินให้เได้ 10-15 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ ซึ่งลักษณะการออมยอดฮิตคือ เงินฝากออมทรัพย์ จะได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย 0.5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และแบบฝากประจำจะได้ดอกเบี้ยเฉลี่ย 1.10 – 2.50 เปอร์เซ็นต์ต่อปี (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร) หรือใครชอบความเสี่ยงพอประมาณ แต่ผลตอบแทนเยี่ยมจะนำไปลงทุนระยะยาว ก็แล้วแต่สไตล์
ข้อ 2. การกู้เงิน ถึงหนี้จะไม่ใช่เรื่องดี แต่ก็เป็นส่ิงที่คุณเลี่ยงไม่ได้เสมอไป เพราะการออมเงินไม่สามารถให้คุณสร้างฝันได้อย่างรวดเร็วนัก การกู้เงินเหมือนเป็นทางลัดอันดับหนึ่ง แต่คุณต้องบริหารให้อยู่ในระดับที่ไม่เกินความสามารถในการผ่อนชำระของคุณทั้งคู่ด้วย รวมทั้งห้ามคิดเรื่องการกู้เงินนอกระบบเป็นอันขาด ไม่งั้นปัญหาหนี้สินจะฉุดชีวิตคุณซึ่งจะก่อให้เกิดความเครียดและไม่มีความสุขในที่สุด
ข้อ 3. การนำรายได้มาใช้จ่ายร่วมกันถือเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาการวิวาทในอนาคตอย่างแน่นอน เพราะมักจะมีความเหลื่อมล้ำในเรื่องใครใช้เงินมากกว่า และใช้เงินนอ้ยกว่ามาให้คุณผิดใจกันชัวร์ ดังนั้นควรแบ่งภาระหน้าที่ในสัดส่วนที่เสมอกัน อาทิ ฝ่ายชาย รับผิดชอบค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ ฝ่ายหญิงรับผิดชอบค่ารถ ค่าของใช้ภายในบ้าน และค่าอาหารทุกเดือน ในมูลค่าที่ไม่เอาเปรียบกัน รวมถึงการแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาออมร่วมกัน
อ่านถึงตรงนี้แล้วอย่าเพิ่งเครียดไป การมีชีวิตไม่ได้ทำให้คุณใช้ชีวิตยากขึ้นขนาดนั้น แต่มันเป็นเพียงการเสริมสร้างความรับผิดชอบที่ควรมี แต่มันเป็นเพียงการเสริมสร้างความรับผิดชอบที่ควรมี ให้เพิ่มมากยิ่งขึ้นตามอายุเท่านั้น และแน่นอนมันดีต่อตัวคุณ คนรักของคุณ และคนรอบข้างตัวคุณ คุณอาจเสียอิสรภาพทางการเงินไปเพียงเล็กน้อย แต่คุณได้คนที่จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดชีวิตมาหนึ่งคน…คิดว่าคุ้มไหมล่ะ 🙂
(Photo By Drykorn Spring/Summer 2014)