ณ จุดนี้ทุกสิ่งสลับซับซ้อนยิ่งขึ้น แฟชั่นสุภาพบุรุษในปัจจุบันทั้งเข้มข้นและเปี่ยมไปด้วยรายละเอียด สิ่งแรกที่เราเรียนรู้ได้จากแฟชั่นในเวลานี้คือ ‘Boomerang effect’ กล่าวคือ เมื่อใดก็ตามที่เราพยายามจะโยนอะไรออกไป มันมักจะวนกลับมาอย่างรุนแรงเสมอ นั่นแหละคือทิศทางของตลาดแฟชั่น เมื่อคนส่วนมากหันไปบ้าคลั่งแบรนด์แบรนด์ดัง คนรุ่นใหม่ก็เริ่มสร้างความแตกต่าง ซึ่งผ่านการตะกอนมาอย่างดี
ในขณะที่นั่งอยู่หน้าจอติดตาม London Collections: Men ทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา สิ่งที่เราไม่เคยคาดหวัง(เพราะมั่นใจว่าต้องมีให้เห็น) คือความแปลกใหม่ ความต่าง ความเป็นศิลปะ อย่างที่หลายคนเข้าใจว่าลอนดอนเป็นเมืองที่น่าตื่นเต้นในแง่ของแฟชั่น และเป็นเมืองแห่งแรงบันดาลใจสำหรับนักออกแบบในการสร้างผลงานแบบไร้ขีดจำกัด
หนึ่งในความใหม่ของโชว์ที่ถึงกับต้องเอามือจับคางพร้อมกับพยักหน้า!! คือโชว์จาก Jimmy Choo เพราะเนรมิตร Seymour Leisure Centre ให้เป็นสถานที่โชว์ และไม่ได้มาแบบธรรมดาเพราะมันคือสนามสเก็ต! หลังจากนั้นก็มีเหล่านายแบบ (ที่ขอเดาว่าต้องเป็นโปรสเก็ตระดับเทพ) ออกมาไถ พร้อมโชว์สารพัดอย่าง Kickflip ฉากที่เห็นพื้นรองเท้าเป็นลายเซ็นต์จิมมี่ ชู ตามด้วยแก๊งค์ BMX ที่มาพร้อมลีลาพริ้วไหวอย่างโปร จังหวะการทรงตัว จังหวะเลี้ยงและไหล ท่า Tuck No-Hand จะว่าไปทักษะการเล่นดีหรือรองเท้าดี อันนี้ไม่แน่ใจ…
ตัดภาพมาที่พรีเซ็นเทชั่นกลางกรุงลอนดอนของดีไซเนอร์ชั้นครูระดับตำนาน ผู้ก่อนตั้งแบรนด์ดังตามชื่อเขาอย่าง Paul Smith ที่ยังคงความเป็นแบรนด์ที่ล้วนมองโลกในแง่ดีและคิดบวก! ไม่เกี่ยวไหม…ความแปลกใหม่ยังคงมีให้เห็นตื่นตาแบบคราวก่อนที่เป็นศิลปะการแสดงยิมนาสติก เพื่อแสดงให้เห็นความยืดหยุ่นของเส้นใยและการตัดเย็บที่ดี ในฤดูกาลเป็นทีของเซียนจักรยานในมาดชุดสูทสุดเนี้ยบ กับการโชว์ผาดโผน ไต่ขึ้นบล็อก ท่า Endo ท่า Wheellie หรือแม้แต่ท่าบาลานซ์กับการทรงตัวนิ่งๆบนจักรยาน งานนี้เอาใจคอสตรีทไปเต็มๆ
ทั้งหมดทั้งมวลทำให้เรารู้สึกว่า แบรนด์ชั้นนำต้องการให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งในการแสดง และสร้างความตื่น แถมยังกลายเป็นเรื่องราวอันเอกลักษณ์ให้ได้พูดถึงว่า เฮ้ย เมื่อวานดูโชว์ BMX ของ พอล สมิธ เปล่า โคตรเจ๋งเลย!