ทำความรู้จักกับลาคอสต์แบรนด์ในตำนานผ่าน 7 ตัวอักษร
จากตัวเลขทางเศรษฐกิจสูงถึง 8 ล้านยูโล และวางจำหน่ายใน 114 ประเทศ Lacoste สามารถยืนหยัดผ่านกาลเวลามาได้อย่างงดงาม และการที่เป็นแบรนด์สั่นสะเทือนวงการได้ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เมื่อคิดถึงสิ่งที่ได้ทำ ทั้งการร่วมงานกับแบรนด์ระดับสุดยอดอื่นๆ แคปซูลคอลเลกชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจ ผู้อำนวยฝ่ายสร้างสรรค์ผู้มีความสามารถหลากหลาย ไปจนถึงการร่วมแฟชั่นวีคที่นิวยอร์ก
P for…Polo
คือเรื่องราวของลาคอสต์ ที่กล้าพูดได้เต็มปากว่ามันคือหัวใจหลักและยังเป็นหลักประกันอันมั่นคงของแบรนด์ ซึ่งเมื่อปี 2011 เฟลิปเป โอลิเวรา บัปติสตา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ยังช่วยจุดประกายความยิ่งใหญ่อีกครั้งด้วยการออกแบบคอลเลกชั่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากผลงานเก่าๆของแบรนด์ ด้วยการนำเสื้อโปโล L.12.12 มาตีความใหม่ และถือเป็นผลงานอีกชิ้นที่เชื่อมโยงแบรนด์เข้ากับเจเนอร์เรชั่นใหม่
ประเภทของเสื้อโปโล 35-40 % ของตัวเลขทางธุรกิจ
– 90 แบบต่อคอลเลกชั่น
– 25 กิโลเมตรของด้ายคอตตอนต่อเสื้อโบโลหนึ่งตัว
– 55 สีสันของโปโลลาคอสต์
– 94 เปอร์เซ็นต์ คอสตอน และ 6 เปอร์เซ็นต์ อีลาสติน
R for…Rene Lacoste ย้อนกลับไปในช่วงก่อนปี 1930 เทนนิสเป็นกีฬาที่ผู้คนในโลกตะวันตกให้ความนิยมมีการเล่นกันอย่างแพร่หลาย ผู้เล่นเทนนิส ก็จะมีเครื่องแบบที่คล้ายๆกัน คือ เป็นเสื้อเชิ้ตแขนสั้น พร้อมกับกางเกงขายาวสีขาว แต่ว่านักเทนนิสชาวฝรั่งเศสกลับไม่รู้สึกว่าสบายใจสบายกายเลยกับยูนิฟอร์มแบบเดิมๆ เรเน่ ลาคอสต์ แชมเปี้ยนเทนนิส รายการ French grand slam 7 สมัย กลับได้แรงบันดาลใจจากความอึดอัดออกแบบเครื่องแต่งกายขึ้นมาใหม่ และด้วยความไม่หยุดนิ่งและวิสัยทัศน์ของเรเน่ ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วประหนึ่งได้รับพรจากพระเจ้า แม้จะเกิดวิกฤตเรื่องอัตลักษณ์เมื่อช่วงปลายศตวรรษที่ผ่านมา ก็กลายเป็นเพียงความทรงจำอันเลวร้ายแค่ช่วงเวลาหนึ่ง เพราะทีมงานมือฉมังได้ช่วยกันกอบกู้ไว้ได้
C for…Crocodile
เราๆ ท่านๆ รู้จักสัญลักษณ์จระเข้ชูหางนี้เป็นอย่างดี ถือเป็นตราสัญลักษณ์ที่มีผู้จดจำมากที่สุดก็เป็นได้ เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1925 เมื่อ เรเน ลาคอสต์ นักเทนนิสชาวฝรั่งเศสเดินผ่านร้านกระเป๋าเดินทางหนังจระเข้และพูดกับ ปิแอร์ กิยู กัปตันทีมว่า ‘ถ้าผมชนะการแข่งนี้ คุณต้องซื้อกระเป๋าใบนี้เป็นของขวัญให้ผม’ และทีมฝรั่งเศสไม่ชนะในครั้งนั้น เรเนไม่ได้กระเป๋าจระเข้ใบนั้น แต่เขาต่อสู้เปรียบดังจระเข้ ต่อมาในปี 1927 เพื่อนรักนักกีฬา โรเบิร์ด จอร์จ ออกแบบจระเข้ปากกว้างสำหรับปักบนกระเป๋าแจ๊กเก็ตของเขาจนกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว และในปีเดียวกัน เขาได้ออกแบบเสื้อคอปกจากผ้าเปอติต์ ปิเกเพื่อใช้สวมใส่ในสนามแข่งที่อบอ้าว และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์เสื้อผ้ากีฬาที่สง่างามของ Lasoste และเมื่อปี 2013 สัญลักษณ์จระเข้ชูหางตัวนี้ ถืออายุครบรอบ 80 ปี บริบูรณ์ โดยเฉลิมฉลองครอรอบด้วยคอลเลกชั่น L.12.12 ซึ่งเป็นหัวใจของแบรนด์ว่า L คือ Lacoste 1 คือเนื้อผ้าเปอติสต์ ปิเก 2 คือเสื้อแขนสั้น และ 12 คือหมายเลขเของเสื้อต้นแบบ
L for…Life
จากแคมเปญที่บอกว่า Life is a Beautiful Sport ลาคอสต์ต้องการส่งมอบความสนุกในการใช้ชีวิต โดยการทำให้สิ่งที่เป็นนามธรรมกลายมาเป็นจุดเด่น เพราะลาคอสต์คือแบรนด์เสื้อผ้ากีฬาอย่างแท้จริง
T for… Tennis
หลายคนเข้าใจว่าลาคอสต์คือแบรนด์เครื่องแต่งกายสำหรับนักกีฬาเทนนิสมาตลอด อาจจะด้วยภาพติดตาที่มีให้เห็นกันมาตั้งแต่อดีต รวมถึงผู้ก่อนตั้งแบรนด์ยังเป็นนักเทนนิสที่มีลีลาการเล่นท้ายคอสอันเหนียวแน่น ไม่เพียงแค่เป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์นักกีฬาเทนนิสเท่านั้น มูลนิธิเรเน่ ลาคอสต์ (Rene′ Lacoste) ประเทศฝรั่งเศส ยังมีโครงการสนับสนุนเด็กให้ได้เข้าฝึกอบรมทักษะการเล่นเทนนิสจากสถาบันปิรามิดเทนนิส ซึ่งเป็นสถาบันสอนเทนนิสชื่อดังอีกด้วย
F for…Fun
อาจเป็นเพราะว่าลาคอสต์คือแบรนด์เครื่องแต่งกายแนวสปอร์ต ความสนุกเลยมักมาพร้อมกับการออกแบบทุกคอลเลกชั่นเสมอ อย่างเมื่อเดือนที่ผ่านมา ลาคอสต์คิดส์ ร่วมมือกับ Steven Harrington ศิลปินที่โด่งดังจากงานศิลปะสไตล์ไซคีเดลิคป็อป เพื่อสีสันให้กับเสื้อยืด โดยมีแรงบันดาลใจมจากความหลากหลายของวัฒนธรรมที่น่าค้นหาในแคลิฟอร์เนีย รวมไปถึงคอลเลกชั่นลายพิมพ์สไตล์เรโทรที่ถ่ายทอดความเป็นสปอร์ตผสมกลิ่นอายยุค 1990s ลงบนเสื้อโปโลคอลเลกชั่น The Vintage Ads เห็นไหมล่ะว่าชุดกีฬาไม่จำเป็นต้องเรียบง่ายเสมอไป สนุกกับมันบ้างก็ได้
S for…Style
เห็นได้ชัดว่าลาคอสต์เป็นแบรนด์ที่มีสไตล์ รวมไปถึงมีความพรีเมี่ยม แต่ถึงอย่างไรลาคอสต์ก็ไม่เคยทรยศต่อ DNA ของตัวเอง เอกลักษณ์ยังคงเป็น ‘Sport Inspired’ เสมอ ที่สำคัญลาคอสไม่เคยเข้าไปแข่งขันกับตลาดอุปกรณ์กีฬา เพราะนั้นไม่ใช่สนามแข่งของพวกเขา