หากเอ่ยคำว่า ’No money, no honey’ วลีสุดคลาสสิกหลายคนคงเถียงไม่ออก
เพราะในบางกรณีมันจริงยิ่งกว่าจริงซะอีก สมัยนี้มันไม่มีหรอกนะที่สาวๆจะแลหนุ่มที่ไร้สินทรัพย์เป็นของตัวเอง หรือการจูงมือสาวพาไปลิ้มรสฟัวกราส์ชั้นเลิศในโรงแรมระดับไฮเอนด์ แต่กดเครื่องคิดเลขหารค่าข้าวคนละครึ่ง รวมทั้งหนุ่มๆที่ยังต้องสะสมเงินทุนสำรองเพื่อการช้อปปิ้ง ดูหนังฟังเพลง เอนเตอร์เทนเมนต์ครบครัน ซึ่งเฉลี่ยต่อเดือนรวมราคาแล้วเฉียดดาวน์รถอีโค่คาร์มาขับเล่นได้เลย
ดังนั้น!! ถ้าโลกมันอยู่ยากขนาดนี้หนุ่มๆ อย่างเราต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว เริ่มจากขั้นแรกให้เกาะติดนิตยสารลอปติมัมไว้ เพราะเราไม่ได้มาสอนการลงทุน แต่เรามาชี้เป้าต่อยอดเงินในมือคุณ(ช่างฟังดูดี) เริ่มกันเลย
ลงทุน
ถ้าหากถามหนุ่มๆว่า ลงทุนที่ไหนได้ผลตอบแทนมากสุดเชื่อเลยว่าการลงทุนในหุ้นจะเป็นคำตอบที่ได้รับมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เพราะการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์เนี่ยแหละได้ผลตอบแทนพุ่งกระฉูดที่สุด หากเทียบกับประเภทการลงทุนทั้งหมด แต่ในขณะเดียวกันความเสี่ยงที่เงินจะล่มจมล้มหายตายจากก็มีมากเช่นกัน เรียกได้ว่าไต่ดัชนีขึ้นลิฟท์ไปว่องไวเท่าไรก็มีโอกาสไถลลงแบบเล่นสไลเดอร์เร็วเท่านั้น มันเลยเป็นเรื่องการวัดใจแบบแมนๆ พอสมควร ต้องใช้เวลาการศึกษาที่ลึกซึ้งถ่องแท้ เชื่อมั่นในตัวหุ้นที่เราจะนำเงินไปกองไว้ให้เขาไปใช้จ่าย แค่ฟังดูก็ใจหวิวนะ เอาไว้คราวหน้าค่อยมาลึกซึ้งเรื่องนี้กัน
ทองคำ
อยากชี้การเป้าการลงทุนในสินทรัพทย์ที่ช่วยป้องกันความเสียงด้านเงินเฟ้อ และความผันผวนได้อย่างมีประสิทธภาพ สินทรัพทย์ที่กล่าวข้างต้นนั้นก็คือ ‘ทองคำ’ สินทรัพทย์งดงามอร่ามตา แสดงความมั่งคั่งแก่ผู้สวมใส่ (ภาพติดตามจากละครที่ลุงหัวล้านเสื้อลายๆไปนั่งในคาเฟ่ และมีอทงเส้นโตประดับก็ลอยขึ้นมา) ซึ่งทองคำความเสี่ยงมันต่ำนะเฟ้ย! ใครจะเชื่อว่าเมื่อก่อนทองบาทละ 800 บาท (ทวดเล่าให้ฟัง) แต่ตอนนี้าคาวิ่งอยู่ช่วง 20,000 บาท และจากสถิติราคามันเติบโตขึ้นทุกปี เรียกได้ว่าคุ้มค่าและมั่นคง ไม่ต้องหวั่นใจมากมาย มีสินทรัพย์จับต้องได้อยู่กับตัว
ลักษณะการซื้อขายสินทรัพย์ประเภทนี้เหมาะกับนักสะสมใจเย็นนิ่งสงบ ไม่หวือหวา หวังน้ำบ่อหน้า(ถึงแม้จะอยากกินบ่อนี้เลย ก็ต้องห้ามใจ) นักลงทุนทองมักจะไม่ซื้อขายบ่อย มักซื้อเก็บในตู้เชฟ ซื้อใส่โชว์ประชาชน(แต่อาจมีหลายคนมองว่าซื้อทองใส่แล้วแปลกว่าแก่ แต่ใส่แล้วสาวเหลียวก็โอเคป่ะวะ) ในกรณีนี้ไม่นับรวมการซื้อทองแจกสาว เพราะจะกลายเป็นแคสการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก มากกกกกกกกก
ปัจจัยการเคลื่อนไหว
มันจะเป็นข่าวเชิงลบของโลกใบนี้ สถานการณ์ที่จะทำให้คนหวั่นเกรงกลัวเกิดวกฤตเหมือนในหนังสงคราม กับเป็นตัวผลักดันราคาให้ทองพุ่งปรี๊ดดดด อย่างรุนแรง ยิ่งสถานการณ์ภายนอกหวั่นไหว ผู้คนก็อยากกอดสินทรัพย์ที่สามารถจับต้องได้มากกว่ากันทั้งนั้น เช่น เมื่อเดือนกรกฎาคม 2014 ที่เพิ่งผ่านพ้นมา หลังจากครึ่งปีแรกราคาทองนิ่งสงบไม่หวือหวา แต่บทวิเคราะห์ราคาทองคำครึ่งปีหลังกว่า 10 สำนักตีแผ่มาแล้วว่า นี่แหละคือช่วงเวลาผงาดอีกครั้งของราคาทองคำ ผลทั้งจากการสู้รบในอิรักที่ยึดเยื้อ รวมทั้งสงครามทางศาสนาและเชื้อชาติของอิสราเและปาเลสไตน์ กลับเป็นตัวผลักดันสำคัญของราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งความอ่อนไหวของสถานการณ์ทั่วโลกเป็นปัจจัยที่เด่นชัด ในการเคลื่อนไหวก็เริ่มกลับมาซื้อทองคำมากกว่า 20 ล้านตัน หลังจากเว้นช่วงไปนานเพราะราคาบวกน้อยไร้ความน่าสนใจ อีกทั้งผู้ค้าทองและนักลงทุนในทองคำเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นที่จะทยอยซื้อสะสมอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง (แค่นี้ก็เรียกขวัญและกำลังใจได้เยอะ)
แต่เดี๋ยวก่อน! เมื่อมีปัจจัยบวก มันก็ต้องมีปัจจัยลบเป็นของคู่กัน ความสดใสของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มฟิ้นตัวขึ้นไปหลายประเทศ เป็นแรงจูงใจผู้มีเงินเหลือทุกท่านให้คันไม้คันมืออยากนำเงินไปรับความเสี่ยงของการเติบโตในการลงทุนประเภทอื่นๆ แต่ไม่ได้กระทบจิตใจที่แข็งแกร่งกับนักลงทุนทองเท่าไรหรอกนะ เรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ความชอบมากกว่า
ย้ำอีกครั้งว่า การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน…. แต่ถ้าทุกอย่างมันยากเกินไป มีอีกประโยคหนึ่งให้ยึดเป็นคติประจำใจ ‘No honey, more money’ ง่ายสุด!!
Text: Bizworker