Apple ประกาศการเปลี่ยนแปลงแบบยกทีมของกองทัพ MacBook ทั้ง MacBook Air และ MacBook Pro พร้อมกับเปิดตัว ‘MacBook’ ชื่อสั้นๆที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ใหม่ ที่ทำให้ใครหลายคนแทบอยากจะเก็บเครื่องเก่าใส่กรุ!
อันจริงแค่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของรูปลักษณ์ภายนอกก็ทำให้อดใจไม่ไหวกันแล้ว สำหรับ MacBook รุ่นใหม่ที่เพิ่มสีทองและสีดำเข้ามาเป็นทางเลือก ส่วนสีเทาก็ยังคงมีอยู่ ในเรื่องของสเปคไม่ต้องพูดถึง แค่บอกว่าน้ำหนักไม่ถึง 1 กิโลกรัม ก็ทำมือสั่นแล้ว พกพาสะดวก เบาหวิวเลยทีนี้ และตัวเครื่องก็บาที่สุดในตระกูล เพราะมีความบางเพียง 1.31 เซ็นติเมตร หน้าจอ Retina Display ความละเอียด 2304 x 1440 ขนาด 12 นิ้ว ความหนาแน่น 226 พิกเซลต่อนิ้ว ใช้ Intel Core M ทำให้ไม่ต้องมีพัดลมในเครื่อง คีย์บอร์ดปรับปรุงใหม่โดยใช้กลไกรูปแบบผีเสื้อ ทำให้ปุ่มไม่โยกเหมือนคีย์บอร์ดอื่นๆ
Trackpad แบบ Force Touch รับรู้แรงกด ทำให้คลิกและกดค้างได้ง่ายขึ้น ออกแบบแผงวงจรใหม่ทั้งหมด ทำให้ขนาดเล็กมาก และใช้พื้นที่ส่วนใหญ่ไปกับการเก็บแบตเตอรี่ แบตเตอรี่อยู่ได้ 9 ชั่วโมงสำหรับการท่องเว็บ
แต่ไม่มีอะไรเพอร์เฟ็คไปส่ะทุกอย่าง (ความรักก็เช่นกัน) เพราะทั้งตัวเครื่องของ MacBook รุ่นใหม่นี้มีพอร์ต USB-C มาให้เสียบแค่เพียงพอร์ตเดียว แล้วทำหน้าที่ทุกอย่างในเครื่อง ตั้งแต่ชาร์จไฟ ต่อ USB ต่อจอภาพ รวมไปถึงการเสียบ USB ธรรมดาให้กับรุ่นใหม่นี้ คุณจะต้องซื้อเองเพิ่มในราคา 690 บาท แต่ถ้าอยากได้แบบสดวก สายเส้นเดียวเพื่อเสียบไปต่อ HDMI และ USB พร้อมกันต้องเสียเงินซื้อมาในราคาา 2,990 บาท
การเปลี่ยนแปลงของรุ่นพี่ MacBook Air และ MacBook Pro
นอกเหนือจากไฮไลท์ของงาน Apple ยังได้ประกาศสั้นๆ ถึงการปรับปรุง MacBook Air และ MacBook Pro โดยพัฒนา CPU เป็น Intel Core i รุ่นที่ 5 Broadwell ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม พร้อมปรับหน่วยประมวลผลกราฟฟิคเป็น Intel Graphic 6xxx ด้วย และปรับปรุงไปใช้ ThunderBolt 2 อีกอย่างที่ MacBook Pro ได้รับการปรับปรุงคือ Trackpad ใหม่ เพื่อเพิ่มความสามารถในการตรวจจับแรงกดเข้าไปเหมือน MacBook
บอกแล้วว่าทุกสิ่งไม่ได้สมบูรณ์แบบ ‘MacBook’ ก็เช่นกัน!
MacBook รุ่นใหม่ของแอปเปิ้ลถือเป็นงานวิศวกรรมชั้นเลิศที่ออกมาเขย่าวงการโน๊ตบุ๊ค ด้วยความสวยงาม เบา พกสะดวก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่จำเป็นมากจริงๆกับการทำงานปัจจุบัน แต่! ประสบการณ์จาก MacBook Air ตัวแรกก็ไม่ได้สอนอะไรกับแอปเปิ้ลเท่าไหร่ ว่าการที่มีพอร์ตเดียว มันสร้างความลำบากให้กับผู้ใช้มากขนาดไหน
สำหรับคนที่ต้องการใช้คอมพิวเตอร์ทำงานทั่วไป MacBook Air ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ด้วยพอร์ตน้อยกว่า CPU ประสิทธิภาพสูงกว่า
ถ้าแค่พิมพ์เอกสารทั่วไปก็ใช้ได้ (ความจริงโน๊ตบุ๊คตัวอื่นก็พิมพ์ได้) แต่ต้องทนความรำคาญกับการเสียบอุปกรณ์เสริม และลำบากกับ CPU ที่มีประสิทธิภาพต่ำสำหรับคนที่ต้องการทำงานกราฟฟิค/ครีเอทีฟ ก็เลือกได้ทั้ง MacBook และ MacBook Pro เพราะมีจอประสิทธิภาพสูงเหมือนกัน แต่ปัญหาด้านประสิทธิภาพของ Core M ตัว MacBook Pro ยังคงดีเยี่ยมมากกว่า
ในส่วนของราคาก็สมเหตุสมผล! เริ่มต้นที่ 43,900 บาท สำหรับรุ่นที่ได้ SSD ความจุ 256 GB และ Core M ความเร็ว 1.1 GHz ส่วนรุ่นใหญ่คือ 54,900 บาท จะได้ SSD ความจุ 512 GB และ Core M ความเร็ว 1.2 GHz โดยน่าจะเริ่มจำหน่ายในไทยเร็วๆ นี้