ถ้าพูดถึง Mr.Bean ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ต่างก็รู้จักคุ้นเคยกับมาดตลกเมืองผู้ดีกับมุขที่ช่วยให้อารมณ์ดี แถมยังใช้บทพูดเพียงน้อยนิดต่างกับการแสดงออกทางและองค์ประกอบของเรื่องราว แต่ถ้าเอ่ยชื่อโรวาน แอตแคนสัน ผู้ที่เข้าถึงจิตวิญญาณรถ ทุกคนจะรู้จักเขาในฐานะนักสะสมสายตาแหลมคม
แม้ในบทภาพยนต์จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับรถยนต์เข้ามาเกี่ยวข้อง หลายบทหลายตอนก็ตาม แต่ก็เป็นเรื่องราวที่ชวนขำขันกับรถเล็กคันจิ๋ว Austin Mini ซึ่งในบางตอนก็ถูกดัดแปลงเรียกเสียงหัวเราได้ไม่หยุดหย่อน แต่ในชีวิตจริงของ แอตคินสัน เขาไม่ได้เล่นตลกกับบรรดารถคันโปรดที่เขาสะสมและดูแลรักษามันเป็นอย่างดี
เริ่มกันเบาะๆ กับคันแรกที่ในวงการมันถูกเรียกฉายาว่า Ferrari แห่งแดนอาทิตย์อุทัย แม้ในตลาดฝั่งยุโรปจะเป็นชื่อแบรนด์ว่า Acura แต่ความขลังของโลโกตัว H ทำให้ผู้รับบทตัวตลกเมืองผู้ดีนี้เลือกเอา Honda NSX ตัวไมเนอร์เชนจ์ที่ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ด้านหน้าให้โดดเด่น แถมเจ้า Ferrari ญี่ปุ่นนี้ก็ทิ้งทวนไปนานมากหรือเรียกได้ว่าหยุดสายการผลิตไปนานแล้ว จนกระทั่ง Honda เอาตัวที่เป็นคอนเซ็ปต์คาร์ที่ทำออกมาเพื่อเป็นรถแข่งวิ่งในรายการ Super GT แต่ก็ยังไม่ได้ระบุชัดเจนว่าสายการผลิตรหัส NSX นี้จะเดินสายพานอีกครั้ง ขุมพลังของมันตัวที่เป็น production Car ตัวสุดท้ายนั้นยังใช้เครื่องยนต์บล็อค V6 ที่รีดกำลังให้ออกมาได้ในระดับ 290 แรงม้า และแรงบิด 304 นิวตันเมตร และเสียงโหยหวนของเครื่องยนต์ c32B ทำให้แม้แต่อดีต Drift King Keiichi Tsuchiya ก็ยังเลือกใช้ในการแข่งขัน
หนึ่งในรถพวงมาลัยขวาที่ แอตแคนสัน ซื้อมาตันแรกนั่นก็คือ V8 Vantage Zagato รถปี 1986 ที่เดิมทีก็มีกำลังแรงม้าติดตัวออกมาอยู่ 432 แรงม้าจากเครื่องยนต์ บล็อค V8 จากค่าตัวที่ขายในยุคนั้นก็อยู่ที่ 95,000 ปอนด์สำหรับตัวคูเป้ แน่นอล่ะว่ามาถึงมือของ แอตแคนสัน มันคงไม่หยุดอยู่แค่นั้น เขาจัดการจัดสีฉวีวรรณและจับแต่งองค์ทรงเครื่องแต่งตัว Aston Martin คันนี้เสียใหม่โดยส่งกลับไปทางโรงงานช่วยขุนและทำให้มันปรากฎกายอีกครั้งโดยให้อารมณ์การขับขี่เช่นเดียวกับรถแข่งในคราบของรถยนต์บ้านที่คลาสสิก โดยจากเงินไปมากถึง 220,000 ปอนด์ เพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาดังใจหวัง
เสือร้ายจากเมืองผู้ดีก็ดูเหมือนจะเป็นสิ่งถูกใจอีกหนึ่งคันซึ่ง Jaguar Mk 7 ชื่อนี้จะเป็นที่โปรดปรานไม่ได้ถ้ามันไม่ได้ชนะการแข่งขันในรายการมอนติคาร์โลแรลลี่ในปี 1956 และเป็นที่นิยมอย่งมากในยุคนั้นกับรถซาลูนที่ถูกเลือกใช้ในการแข่งขัน แม้กำลังเครื่องยนต์จะน้อยนิดเพียงร้อยกว่าๆแรงม้า แต่มันก็เป็นรถที่ขับสนุกแถมยังถูกผู้เรียกเสียงฮาจมูกโด่งคนนี้เอาไปควบวาดลวดลายในงาน Greewood Festival of Speed ในปี 2002
และยังคงเป็นเขาคนเดิมที่ชอบในรถที่ค่อนข้างหายากและเป็นที่สะสมโดยที่ Aston Martin DB2 ถูกเลือกมาเป็นม้าศึก ส่วนคันนี้จะเป็นรถแบบสปอร์ตซาลูนคันแรกของเขา รถในยุคต้นของปี 50 ที่พกเครื่องหกสูบแบบแถวเรียงที่มีความจุ 2,580 ซีซี เรียกกำลังออกมาได้ 105 แรงม้า กับน้ำหนักตัว 1,111 กิโลกรัม มันทำอัตราเริ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลา 11.2 วินาที หากเป็นยุคนี้ก็คงเป็นเต่าดีๆนี่เอง
ความหลงใหลในรถยนต์ที่เรียกได้ว่าสมรรถนะสูงกว่าบรรดารถในยุคเดียวกันหรือที่ถือกำเนิดจากสายการผลิตพร้อมๆกัน จากที่ต่างๆนั้นยังไม่หยุดนิ่ง และยังไม่สามารถดับความกระหายได้เมื่อหนึ่งในคอลเลกชั่นของเขานั้นคือ Ford Falcon กับเครื่องยนต์ 4.7 ลิตร มีหรือที่ใครคนไหนได้อยู่หลังพวกมาลัยแล้วจะไม่หมุนมันให้รถวิ่งไปยังสนามแข่ง ในปี 2008 รถคันนี้ถูกควบไปยังสนามซลเวอร์สโตน อีกหนึ่งสนามแข่งอันเลื่องชื่อของอังกฤษ ในงานสังสรรค์ของบรรดาผู้ที่ชื่อชอบรถคลาสสิก และเจ้า Falcon คันนี้ ก็ไปอบู่ในตำแหน่ง ที่ 15 บนกริดสตาร์ทของการแข่งขันย่อยๆในวันนั้น
หนึ่งในรถในตำนานที่ แอตแคนสัน ไปหามาสะสมจนได้นั่นก็คือ 1939 BMW 328 Mile Miglia Roadste สุดคลาสสิกที่ไม่ว่าจะขับไปไหนก็ต้องมีแต่คนเหลียวมองคันนี้ถูกจับตาว่าเป็นรถที่นักสะสมเห็นแล้วพลาดไม่ได้ที่เดียวเชียว รถในยุคปลายปี 30 ที่ยังหลงรอดมาจนถึงปัจจุบันใครล่ะ จะไม่อยากสะสม เจ้าวัตถุโบราณตันนี้มาพร้อมกับเครื่องยนต์ ขนาด 1,971 ซีซี ซึ่งเครื่องยนต์ในยุคนั้นรีดกำลังม้าออกมาได้ถึง 135 แรงม้านั้นนับว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพไม่น้อยหน้าใครเลยทีเดียว คอลเลกชั่นรถคลาสสิกคาร์เหล่สนั้นมาใช้ทุกวนก็คงจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่ รถยนต์ของ โรวาน แอตแคนสัน ที่ใช้งานอยู่ทุกวันก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สำหรับ Rolls-Royce Phantom Coupe ที่ใช้ออกงานทั่วไปนั้นก็จะดูธรรมดาไปถ้าต้องเทียบกับรถคันโปรดที่ซื้อแล้วแถมตู้เครื่องมือเอาไว้ที่บ้านหากมีปัญหาช่างจะได้มาเซอร์วิสให้ถึงที่ McLaren F1 คันนี้เกิดพลาดท่าชนพังกับเสาไฟฟ้าไปเสียแล้ว เห็นกองทัพรถสะสมของเขาคนนี้แล้ว หัวเราะไม่ออกเลยล่ะสิ
