5 GENERATIONS OF FORD MUSTANG
เป็นเวลากว่า 5 ทศวรรษที่รถสปอร์ตสัญชาติอเมริกัน FORD MUSTANG ถือกำเนิดขึ้น ด้วยรูปโฉมอันโดดเด่นของกระจังหน้า และสมรรถนะความแรงเกินตัว จึงไม่แปลกนักที่มัสเซิลคาร์ ฉายา ม้าป่าแดนมะกันเป็นหนึ่งในรายชื่อของรถซิ่งในฝันที่ผู้คนอยากจับจองเป็นเจ้าของ โดยหากนับย้อนไปตั้งแต่ปี 1964 ปีเกิดของ ฟอร์ด มัสแตง ได้เปิดตัวสู่สายตาคนทั่วโลกและแพร่หลายโด่งดังอย่างรวดเร็ว จนมีการพัฒนารูปโฉม ถึง 5 ยุค 5 สมัย ดังนี้
Generation ที่ 1 (1964-1973) : แค่เพียงเห็นรูปโฉมที่เท่เกินคำบรรยายของ มัสแตงรุ่นแรก ซึ่งมาพร้อมกับเครื่องยนต์ straight-6 ขนาด 2.8 ลิตร เกียร์ธรรมดา 3 สปีดมาตรฐาน ก็ทำเอาเหล่านักเลงรถตัวจริง ต่างแย่งกันจับจองยอดทะลุพุ่งทะยาน ขายไปได้มากกว่า 478,812 คัน จนไปเตะตาได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในพาหนะสุดล้ำของสายลับ 007 ยิ่งทำให้ราคาดีดตัวสูงขึ้นตามความต้องการของตลาด แต่เหตุนี้เอง กลับทำให้ความนิยมของม้าป่าแดนมะกันเริ่มเข้าสู่ยุคถดถอย ยอดขายตกลง จึงต้องเร่งออก มัสแตงรุ่นที่ 2 ออกมาตีตลาดใหม่อีกครั้ง
FORD MUSTANG 1964
Generation ที่ 2 (1974-1978) : ยังคงความแรงเกินตัวอันเป็นเอกลักษณ์ไว้อย่างเช่นเคย สำหรับ มัสแตงรุ่นที่ 2 ที่มาพร้อมโฉมหน้าที่ดูไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่กลับเลือกปรับราคาให้ถูกลง เพื่อหันมาจับตลาดวงกว้าง สร้างให้ยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 385,993 คันในปีแรกหลังการเปิดตัว
FORD MUSTANG 1978
Generation ที่ 3 (1979-1993) : เมื่อกระแสรถสปอร์ตจากญี่ปุ่นเริ่มเข้ามาตีตลาด มัสแตงจึงปรับตัว หันมาเริ่มผลิตรถสปอร์ตแบบ 4 ที่นั่งเป็นรุ่นแรก เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่ขณะนั้นนิยมให้รถยนต์จุคนได้มากขึ้น และมีการเพิ่มสปีดเกียร์ธรรมดาถึง 5 สปีด และ เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีดเพื่อเพิ่มความสนุกในการขับขี้ นอกจากนี้ ในด้านดีไซน์ ยังมีการปรุงแต่ง ปรับโฉมเปลี่ยนไฟหน้าให้ทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงเส้นสายสัญชาตญาณความเป็นม้าป่า ไว้อย่างลงตัว
FORD MUSTANG 1982
Generation ที่ 4 (1994-2004) : การปรับโฉมครั้งที่ 4 ของมัสแตงในครั้งนี้ นับได้ว่า เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้อย่างชัดเจน เพราะจากรูปแบบที่ลดความเหลี่ยม เพิ่มความโค้งมนดดยปรับให้เข้ากับยุคสมัยในช่วงเวลานั้น แต่ยังคงเอกลักษณ์การขับเคลื่อนล้อหลังไว้ ทำให้มัสแตงรุ่นนี้ถือเป็นอีกรุ่นที่ยังคงได้รับความนิยมในท้องตลาดจวบจนปัจจุบัน
FORD MUSTANG 2001
Generation ที่ 5 (2005-ปัจจุบัน) : และล่าสุด กับมัสแตงรุ่นที่ 5 ซึ่งมาพร้อมกลิ่นอายสปอร์ตแบบเต็มขั้นแต่ยังคงผสานความคลาสสิกและเส้นสายอันเป็นเอกลักษณ์ บวกกับว่านับเป็นรถยนต์รุ่นแรกของวงการยานยนต์ที่ผู้ขับขี่สามารถเลือกโทนสีไฟหน้าปัดได้เอง มาพร้อมเครื่องยนต์ 2 ขนาดคือ V6 ตัวเครื่อง 4.0 ลิตร ซึ่งให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า และ V8 ตัวเครื่อง 4.6 ลิตร ซึ่งให้กำลังสูงสุด 300 แรงม้า โดยหากคำนวนจากตัวเลขจะเห็นได้ว่าเพิ่มขึ้นถึง 50 % เลยทีเดียวเมื่อเทียบกับรุ่นแรก
FORD MUSTANG 2015