Sangsom MOVEaBar presents Unique Journey
โดย Talkatif
ลอปติมัม:โปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
เล็ก : โปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นจากทางแสงโสมได้กิจกรรมนี้ขึ้นมา และสนใจที่จะร่วมงานกับพวกเราครับ ก็นัดคุยกันอยู่สักพัก แล้วก็ตกลงมาทำงานร่วมกัน
ลอปติมัม: รู้สึกอย่างไรบ้างครับกับงานนี้?
คาวบอย : สนุกดีครับ ก็ถือเป็นประสบการณ์ในการทำงานอีกแบบหนึ่ง
ลอปติมัม: ถามถึงผลงานเพลงของแต่ละคนบ้างดีกว่า แรงบันดาลใจของแต่ละเพลงนี่มาจากไหน?
เล็ก : แรงบันดาลใจของผมเกิดจากคำว่า ‘คิดถึง’ ครับ สำหรับผมการเดินทางไม่จำเป็นว่าเราต้องเดินทางจริงๆก็ได้ ในทุกๆวันของเราก็คือการเดินทาง เพลง ‘เสมอ’ ที่ผมแต่งขึ้นมาพูดถึงเรื่องความคิดถึง จริงๆเพลงนี้เป็นเพลงแรกของผมที่มีคำว่า ‘คิดถึง’ อยู่ในนั้น
ลอปติมัม : หมายถึงคำว่า ‘คิดถึง’ นี่พูดยาก?
เล็ก : ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ คือมันไม่ได้พูดยาก แต่ผมว่าบางครั้งเราไม่จำเป็นต้องพูดคำว่าคิดถึงก็ได้ มันมีคำอื่นๆที่สามารถใช้แทนความรู้สึกนี้ได้ แต่สำหรับเพลงนี้ ผมมองว่ามันไม่มีคำอื่นนอกจากคำนี้ที่จะสื่อได้ลงตัว
ลอปติมัม: ในมิวสิกวิดีโอยังพูดถึงเรื่อง ‘แสง’ ด้วย แสงเกี่ยวอะไรกับความคิดถึง?
เล็ก: คือแสงเนี่ย มันก็เหมือนกับความคิดถึงน่ะครับ บางครั้งเราเห็นมันแต่เราอาจจะไม่ได้รู้สึกถึงมันตลอดเวลา แต่ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน หรือเขาจะอยู่ที่ไหน ตราบใดที่เรายังมองเห็นแสงอยู่ ก็เหมือนกับว่าเรายังคิดถึงกันตลอดเวลา
คาวบอย: สำหรับเพลง ‘นางในฝัน’ เกิดจากที่ผมเป็นคนชอบเที่ยวเกาะ เที่ยวทะเล แล้วรู้สึกว่าคนเที่ยวเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีความรับผิดชอบต่อธรรมชาติ ก็เลยเปรียบเกาะให้เหมือนกับผู้หญิง ที่เราต้องดูแลรักษา ทะนุถนอมเขาครับ
ลอปติมัม: ถ้าผู้หญิงเป็นเกาะ ผู้ชายจะเป็นอะไร
คาวบอย: คงจะเป็นต้นไม่มั้งครับ คอยดูแลปกปก้องเกาะ
ลอปติมัม: อยากจะบอกอะไรกับคนที่ฟัง
คาวบอย: ปกติคนที่ฟังเพลงผมส่วนใหญ่จะยังเป็นวัยรุ่นอยู่ วัยรุ่นชอบเที่ยวครับ แต่บางครั้งก็ไม่มีความรับผิดชอบ ผมอยากให้คนที่ฟังเพลงของผมมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ธรรมชาติ ผมชอบไปทะเลเวลาที่ว่างหรือเสร็จงานแล้ว ผมก็เลยอยากให้มันอยู่กับผมไปนานๆ
ตุล: เพลงของผมชื่อเพลงว่าดูดครับ อย่าเพิ่งคิดทะลึ่งนะ เพราะมันพูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ุ สำหรับผมการเดินทางก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางจริงๆก็ได้เหมือนกัน บางครั้งการที่เราได้อยู่ในที่ๆหนึ่ง กับคนหรือปาร์ตี้ ก็เหมือนเราได้เดินทางร่วมกัน เราได้ดูดดื่นบรรยากาศร่วมกัน พองานจบก็แยกย้าย ก็เหมือนกับสิ้นสุดการเดินทางครับ
ลอปติมัม: ดูเหมือนว่าเพลงและในมิวสิกวีดีโอของทุกคนจะมีจุดร่วมกันคือทะเลนะครับ นี่นัดแนะกันก่อนหรือเปล่า
ตุล: เปล่าครับ ผมมองว่าทะเลมันเป็นอะไรที่กว้างนะ เราไปเที่ยวแบบสนุกได้ หรือไปแบบเงียบๆก็ได้ มีน้ำ มีท้องฟ้า ผมว่ามันน่าสนใจที่เรามองทะเลออกมาได้ในหลายๆมุม
ลอปติมัม: เป็นคนชอบเที่ยวกันแบบนี้ เคยมีประสบกาณ์ท่องเที่ยวอันไหนบ้างที่ลืมไม่ลง?
เล็ก: ตอนนั้นไปดูสถานที่ถ่ายทำเรื่อง ‘ชัมบาลา’ ครับ ก็เหมือนในหนังที่ต้องนั่งเครื่องบินไปลง แล้วก็ต้องนั่งรถต่อไป คือตอนแรกที่เห็นก็สวยดีครับ มีทุ่งกว้างสุดลูกหูลูกตา ภูเขา แล้วก็หมอกจนมองไม่เห็นทาง ตอนที่นั่งรถมาผมก็หลับไปประมาณ 30 นาที สิ่งที่น่าตื่นเต้นก็คือ ตอนผมตื่นมา ทุกอย่างมันอยู่ที่เดิม คือรถมันก็วิ่งนะ แต่ว่ามันใหญ่มาก ตอนนั้นผมรู้เลยว่าจริงๆแล้วเราเนี่ยตัวนิดเดียว
ตุล: ของผมตอนไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ต่างจังหวัดครับ จำไม่ได้แล้วว่าที่ไหน แต่ที่จำได้คือตอนเล่นเสร็จ เราต้องตีรถเพื่อไปเล่นอีกที่หนึ่งในตอนเช้า ตอนนั้นฝนตกหนักมาก ที่ปัดน้ำฝนก็เสีย แต่ก็ต้องค่อยๆขับไป มืดมากแล้วด้วย แต่สุดท้ายก็ที่หมายครับ จำได้ไม่ลืมเลย
ลอปติมัม: สิ่งที่จะเอาไปด้วยตอนเที่ยว?
ตุล: เอาแต่ตัวแล้วก็ความพร้อมไปครับ
คาวบอย: เหมือนกันครับ
เล็ก: แล้วก็เงินครับ อันนี้สำคัญเหมือนกัน (หัวเราะ)
ลอปติมัม: ปกติเวลานักดนตรีไปเที่ยว ไม่เอาเครื่องดนตรีไปด้วยหรอครับ
คาวบอย: อยู่ที่ว่าเราไปกับใคร แล้วก็ไปไหนครับ ถ้าไปทะเลหรือไปคนเดียว ผมก็ไม่เอาไป ไปนั่งฟังเสียงคลื่นเสียงลมดีกว่า ส่วนเรื่องเพลงนั้นเราเก็บความรู้สึกมาเป็นแรงบันดาลใจได้อยู่แล้ว
ตุล: ผมไม่เอาพวกอุปกรณ์การฟังเพลงไปเลยนะ ผมรู้สึกว่าเวลาเราเดินทาง เราควรจะอยู่กับมัน สัมผัสมันมากกว่า
อันที่จริงผมอยากจะปิดท้ายด้วยการถามถึงผู้ชายลอปติมัมในแบบของคุณ แต่ผมรู้สึกได้ว่าคำถามนี้มาช้าไปเสียแล้ว เพราความแนวและความสามารถที่น้อยคนจะเลียนแบบได้ของพวกเขาทั้งสาม ก็เพียงพอแล้วที่จะตอบคำถามนี้
- Advertisement -