ก่อนจะเข้าไปชม Point Break ที่กำลังจะเข้าฉาย คุณควรจะรู้ 10 ข้อนี้ติดเข้าไปด้วย

Share This Post

- Advertisement -

Point Break (ปล้นข้ามโคตร)

10 ข้อที่คุณควรจะรู้ก่อนเข้าไปชมภาพยนตร์ Point Break ว่ารายละเอียดของความตื่นเต้นและความพยายามในการถ่ายทำฉากต่างๆ นั้นยากเพียงใดกว่าจะออกมาเป็นภาพยนตร์เรื่องนี้

1. เคิร์ต วิมเมอร์ ผู้เขียนบทฯ Point Break ใช้เวลาค้นคว้าและเตรียมงานด้านบทภาพยนตร์มานานกว่า 3 ปี และใช้เวลาถ่ายทำทั้งหมดเกือบปี โดยมีการถ่ายทำกันใน 10 ประเทศ 4 ทวีป อาทิเช่น น้ำตกแองเจล น้ำตกที่สูงที่สุดของโลก, เทือกเขาแอลป์ส สวิตเซอร์แลนด์, ชายฝั่งเทฮูปูโฮ ตาฮีติ ฯลฯ … ซึ่งทางทีมงานเน้นใช้การถ่ายทำในสถานที่ถ่ายทำจริง และหลีกเลี่ยงการใช้กรีนสกรีนหรือเทคนิคคอมพิวเตอร์มาช่วยในสร้างสรรค์ภาพ

POINT BREAK

2. สภาพอากาศในยุโรป (เยอรมนี, ออสเตรีย, อิตาลี) นั้นเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่ทีมงานต้องเผชิญขณะถ่ายทำ เนื่องจากมีฝนตกกระหน่ำติดต่อกันหลายวัน ซึ่งนับว่าเป็นการถ่ายทำฉากแอคชั่นที่เต็มไปด้วยความท้าทายและเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างยิ่ง

POINT BREAK

3. ระหว่างการถ่ายทำฉากโต้คลื่นบริเวณเกาะเมาวี ฮาวาย ทางทีมงานและนักแสดงต้องเผชิญหน้ากับคลื่นที่ใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ!

POINT BREAK

4. การถ่ายทำฉากปีนเขาด้วยมือเปล่าที่ น้ำตก Angel Falls  ซึ่งถือได้ว่าเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดของโลกในประเทศเวเนซูเอลานั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฉากที่ทีมงานต้องทุ่มงบเป็นจำนวนมาก โดยมีการใช้งบไปกว่า 500,000 ดอลลาร์สหรัฐเพื่อสร้างฐานขนาดประมาณหนึ่งสนามฟุตบอลบริเวณใต้จุดของน้ำตก ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทีมงานได้ตั้งแคมป์พักอาศัยกันโดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและพื้นดินในบริเวณนั้น “มันเปรียบได้ดั่งการปฏิบัติการทางทหารอย่างเต็มรูปแบบ” แอนดรูว์ เอ. โคโซฟ ผู้อำนวยการสร้างกล่าวเสริม

POINT BREAK

5. “วิงสูท” แหวกอากาศ “คนบิน” หยุดสายตา! เจ๊บ คอร์ลิส ที่ปรึกษาฉากวิงสูทให้สัมภาษณ์ถึงฉากเสี่ยงอันตรายนี้ว่า “นี่เป็นการรวมตัวของนักกีฬาวิงสูทที่เก่งที่สุดของโลกในเวลานี้อย่างไม่เคยมีมาก่อน โดยนักบินวิงสูท 4 คน จะต้องบินนำผมไป และผมซึ่งจะต้องบินตามหลังพวกเขา พร้อมกล้องถ่ายภาพหนัก 5 กิโลกรัมอยู่บนหัวของผมตลอดเวลาเพื่อถ่ายภาพการบินอย่างเสมือนจริง เราบินด้วยความเร็วถึง 168 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งนับเป็นการบินวิงสูทที่ท้าทายที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของผม”

PB-FP-450

6. ภาพยนตร์ได้ทีมนักกีฬาซูเปอร์เอ็กซ์ตรีมระดับแชมป์โลกมาร่วมแสดงและร่วมดีไซน์ฉากแอคชั่นอันน่าตื่นตามากมาย อาทิเช่น เจ๊บ คอร์ลิส สุดยอดนักวิงสูทชื่อดังของโลก, แลร์ด แฮมิลตัน นักโต้คลื่นระดับตำนาน ผู้คิดค้นนวัตกรรมที่ทำให้มนุษย์สามารถโต้คลื่นยักษ์ด้วยความเร็วสูงอันน่าทึ่งอย่างไม่เคยมีในประวัติศาสตร์มาก่อน และเป็นผู้พิชิตคลื่นสูงที่สุดตลอดกาลได้สำเร็จ, เซบาสเตียน ซิซท์ ผู้ช่ำชองการสเก็ตทุกรูปแบบ

_PB-21-08434.NEF

7. ลุค เบรซี่ สามารถคว้าบท “จอห์นนี่ ยูทาห์” หลังจากการเปิดคัดเลือกนักแสดงมาอย่างยาวนาน ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาดู จริงจัง และตรงไปตรงมา นอกจากนี้ลุคยังเคยเล่นเซิร์ฟ, เล่นรักบี้ และเชี่ยวชาญกีฬาอื่นๆ มาตั้งแต่ยังเด็ก

_PB-02-00806.NEF

8. ความน่าสนใจของสองตัวละครหลักใน Point Break ก็คือความสัมพันธ์ระหว่างยูทาห์และโบดี้ที่ต่างมุ่งมั่นทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ  จนเกิดเป็นความขัดแย้ง ห้ำหั่นเชือดเฉือนกันอยู่ตลอดทั้งเรื่อง … วันหนึ่ง ลุค เบรซี่ ได้เข้ามาให้สัมภาษณ์กับสื่อฯ ถึงตัวภาพยนตร์ แต่สิ่งที่เตะตาในวันนั้นคือลุคมาพร้อมกับบาดแผลบริเวณใบหน้าราวกับถูกซ้อมมา แต่เขาก็ได้อธิบายพร้อมรอยยิ้มว่า สาเหตุนั้นเกิดจากการถ่ายทำในฉากที่ตัวเขาและโบห์ดี้ (เอ็ดการ์ รามิเรซ) ได้เผชิญหน้ากันในคลับต่อสู้ใต้ดินที่ฝรั่งเศส ซึ่งทั้งคู่แสดงด้วยตัวเองและเกิดบาดแผลขึ้นจริงๆ ขณะถ่ายทำฉากต่อสู้

POINT BREAK

9. เทเรซ่า พาล์มเมอร์ ผู้รับบทเป็น แซมซาร่า ได้ให้สัมภาษณ์ถึงคาแรคเตอร์ของเธอว่า “แซมซาร่า เป็นคนที่ซับซ้อน เธอเดินทางมาแล้วมากมายหลายหนแห่ง จิตใจของเธอเข้มแข็งและกล้าหาญมากที่จะลงมือทำในหลายๆ สิ่ง”

_PB-26-09832.NEF

10. ในบรรดากลุ่มนักแสดงหลักทั้งหมด มีแค่ เทเรซ่า พาล์มเมอร์ คนเดียวเท่านั้นที่เป็นผู้หญิง ดังนั้นการวางคาแรคเตอร์เธอจึงต้องทำให้ แซมซาร่า นี้ดูแข็งแกร่งและเฉลียวฉลาดไม่แพ้เหล่าตัวละครผู้ชายในภาพยนตร์ โดยการเพิ่มพูนทักษะและพัฒนาร่างกาย เช่น ดำน้ำ, โต้คลื่น, ไต่เขาร่วมไปกับทุกคนในแก๊งค์

Content by Editorial Team

- Advertisement -